GM เผยรายได้สุทธิไตรมาสแรก 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ดีทรอยท์ – เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศรายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญประจำไตรมาสแรก 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.06 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด ผลประกอบการหลักในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้

มีความแข็งแกร่งชดเชยการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษ 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.23 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด และค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนก่อนหักภาษี 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด

รายการพิเศษในไตรมาสแรกปีนี้ส่วนใหญ่มีผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลก เปลี่ยนซึ่งจีเอ็มใช้ในการประเมินทรัพย์สินสุทธิของบริษัทสาขาในเวเนซุเอลา

ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 รายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญของจีเอ็มมีตัวเลขที่ 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด ครอบคลุมถึงการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.09 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด

ผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงผลกระทบจากค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนก่อนหักภาษี 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และต้นทุนการปรับโครงสร้าง 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 ซึ่งบริษัทมีผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีอยู่ที่ 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนก่อนหักภาษี 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และต้นทุนการปรับโครงสร้าง 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

รายได้สุทธิในไตรมาสแรกของปี 2557 อยู่ที่ 37.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรก
ของปี 2556 ที่ 36.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

“ผลประกอบการของการปฏิบัติงานหลักของเรามีความแข็งแกร่งมากในไตรมาสนี้ สะท้อนให้เห็นถึงเสียงตอบรับที่ดีของลูกค้าที่มีต่อรถรุ่นใหม่ของเราที่เปิด ตัวออกสู่ตลาด” แมรี่ บาร์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็ม กล่าว “เรายังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์รถที่ดีที่สุดในโลกซึ่งเพียบพร้อมด้วยมาตรฐาน สูงสุด ทั้งในด้านความปลอดภัย คุณภาพ และการบริการลูกค้า ตลอดจนการดำเนินธุรกิจเชิงรุกเพื่อพัฒนาช่องทางและโอกาสทางธุรกิจทั่วโลก”

ภาพรวมผลประกอบการของจีเอ็ม (ตัวเลขหลักพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ยกเว้นในส่วนของหุ้น)

	ไตรมาสที่หนึ่ง 2557	ไตรมาสที่หนึ่ง 2556
รายได้	$37.4	$36.9
รายได้สุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นสามัญ	$0.1	$0.9
กำไรต่อหุ้นหลังปรับลด	$0.06	$0.58
ผลกระทบของรายการพิเศษต่อกำไรต่อหุ้นหลังปรับลด	$(0.23)	$(0.09)
กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี	$0.5	$1.8
กระแสเงินสดสุทธิจากธุรกิจยานยนต์	$2.0	$0.5
กระแสเงินสดอิสระจากธุรกิจยานยนต์	$0.2	$(1.3)

 

ผลประกอบการแยกตามภูมิภาค

• จีเอ็ม อเมริกาเหนือ รายงานผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของไตรมาสแรกในปีนี้ 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงผลกระทบจากค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนก่อนหักภาษี 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมาที่ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
• จีเอ็ม ยุโรป รายงานผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของไตรมาสแรกในปีนี้ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงต้นทุนการปรับโครงสร้าง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมาที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
• จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ รายงานผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของไตรมาสแรกในปีนี้ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมาที่ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
• จีเอ็ม อเมริกาใต้ รายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีของไตรมาสแรกในปีนี้ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมาที่ 0.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
• ผลกำไรก่อนหักภาษีของจีเอ็มในไตรมาสแรกของปีนี้ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมาที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

กระแสเงินสดและสภาพคล่อง

ในไตรมาสแรกของปี 2557 กระแสเงินสดจากธุรกิจยานยนต์อยู่ที่ 2.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่กระแสเงินสดอิสระอยู่ที่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา

GM ปิดท้ายไตรมาสด้วยการมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่งมากที่ 37.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมกับมีกระแสเงินสดรถยนต์และหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดที่ 27.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาที่ 27.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

“รายได้และกระแสเงินสดของเราเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ การดำเนินธุรกิจของเราเป็นไปตามแผนที่วางไว้”
ชัค สตีเว่นส์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินของจีเอ็ม กล่าว
“การเปิดตัวนวัตกรรมยานยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องผนวกกับการใช้ความแข็ง แกร่งของเราในสหรัฐอเมริกาและจีนในการปรับโครงสร้างการปฏิบัติงานทั่วโลกจะ ยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญของเราในปีนี้”