ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินกู้
ทำไมต้องมีประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินกู้ด้วย ?
เพราะในปีๆ หนึ่ง ธนาคารมีหนี้เสียเป็นจำนวนมาก จากการที่ผู้กู้เสียชีวิต และครอบครัวไม่สามารถผ่อนชำระแทนได้ การที่ธนาคารได้บ้านของผู้กู้มา ก็ต้องนำไปขายทอดตลาด ก็ทำให้เสียเวลา ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆอีกมากมาย และในอีกแง่คือ ครอบครัวที่ลำบากอยู่แล้วจากการขาดเสาหลักไป ยังจะต้องมีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยอีก นี่จึงเป็นที่มาของประกันตัวนี้ ( เราจะไม่พูดกันในแง่ที่ว่าธนาคารก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายประกันตัวนี้นะ )
ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินกู้มีความคุ้มครองอย่างไร
ความคุ้มครองของกรมธรรม์ โดยปกติจะเริ่มต้นเท่ากับยอดเงินที่กู้ และระยะเวลาของความคุ้มครองก็จะเท่ากับระยะเวลาที่เรากู้เงิน เช่น กู้เงิน 1,000,000 ระยะเวลากู้ 15 ปี ก็จะคุ้มครอง 15 ปี โดยวงเงินที่คุ้มครองจะลดลงเรื่อยๆ การลดลงจะสัมพันธ์กับยอดหนี้ที่ลดลงด้วย เช่นผ่อนบ้าน 1,000,000 บาท โดยผ่อนบ้านเดือนละ 12,000 บาท ไปหักต้นเดือน 10,000 บ าท ปีแรกยอดหนี้ที่ลดลงไปก็จะประมาณ 120,000 บาท เท่ากับยอดเหลือประมาณ 880,000 บาท ความคุ้มครองหลังจากผ่านไป 1 ปี
ความคุ้มครองของกรมธรรม์ โดยปกติจะเริ่มต้นเท่ากับยอดเงินที่กู้ และระยะเวลาของความคุ้มครองก็จะเท่ากับระยะเวลาที่เรากู้เงิน เช่น กู้เงิน 1,000,000 ระยะเวลากู้ 15 ปี ก็จะคุ้มครอง 15 ปี โดยวงเงินที่คุ้มครองจะลดลงเรื่อยๆ การลดลงจะสัมพันธ์กับยอดหนี้ที่ลดลงด้วย เช่นผ่อนบ้าน 1,000,000 บาท โดยผ่อนบ้านเดือนละ 12,000 บาท ไปหักต้นเดือน 10,000 บ าท ปีแรกยอดหนี้ที่ลดลงไปก็จะประมาณ 120,000 บาท เท่ากับยอดเหลือประมาณ 880,000 บาท ความคุ้มครองหลังจากผ่านไป 1 ปี
ในกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิต บริษัทประกันฯ จะดำเนินการอย่างไร?
คำถามนี้อาจเป็นคำถามที่ไม่มีใครอยากอ่านนัก แต่หากเกิดกรณีนี้ขึ้นมาแล้ว หลังจากที่ได้รับเรื่อง บริษัทประกันฯ จะตรวจสอบถึงการเสียชีวิต จากนั้นก็จะจ่ายเช็คออกมาในนามธนาคารที่ได้ทำเรื่องกู้ไว้ เพื่อปิดยอดหนี้ที่เหลือในทันที และบ้านก็จะโอนกรรมสิทธิ์ไปยังครอบครัวของผู้กู้ทันที โดยปกติแล้วหลังจากการปิดยอดที่ธนาคารจะมีเงินเหลืออีกนิดหน่อยคืนมาให้ทางครอบครัวผู้กู้ด้วย เพราะทางบริษัทประกัน จะคิดเผื่ออัตราเงินเฟ้ออะไรเผื่อไว้ด้วย หากกรณีดอกเบี้ยขึ้นมากๆ ก็อาจไม่เหลือในส่วนนี้
คำถามนี้อาจเป็นคำถามที่ไม่มีใครอยากอ่านนัก แต่หากเกิดกรณีนี้ขึ้นมาแล้ว หลังจากที่ได้รับเรื่อง บริษัทประกันฯ จะตรวจสอบถึงการเสียชีวิต จากนั้นก็จะจ่ายเช็คออกมาในนามธนาคารที่ได้ทำเรื่องกู้ไว้ เพื่อปิดยอดหนี้ที่เหลือในทันที และบ้านก็จะโอนกรรมสิทธิ์ไปยังครอบครัวของผู้กู้ทันที โดยปกติแล้วหลังจากการปิดยอดที่ธนาคารจะมีเงินเหลืออีกนิดหน่อยคืนมาให้ทางครอบครัวผู้กู้ด้วย เพราะทางบริษัทประกัน จะคิดเผื่ออัตราเงินเฟ้ออะไรเผื่อไว้ด้วย หากกรณีดอกเบี้ยขึ้นมากๆ ก็อาจไม่เหลือในส่วนนี้
หากเราปิดบัญชีก่อนกำหนด เราสามารถขอค่าเบี้ยที่เหลือคืนได้มั้ย?
หากเราสามารถปิดบัญชีก่อนกำหนด หรือคำถามที่เห็นในกระทู้อื่นๆ คือ รีไฟแนนท์และคิดว่าที่ใหม่ก็น่าจะให้เราทำด้วย เราสามารถขอเวนคืนค่าเบี้ยที่เหลือได้หรือไม่ คำตอบคือได้ทุกกรณี แต่ค่าเบี้ยที่เวนคืนได้อาจน้อยมากจนคุณตกใจ หากอยากทราบว่าเราจะได้เงินคืนเท่าไร ก็พลิกดูที่หลังกรมธรรม์ได้เลย
โดยปกติแล้วค่าเบี้ยประกันของผู้ชายจะสูงกว่าเบี้ยประกันของผู้หญิง เพราะอายุเฉลี่ยของคนไทยผู้หญิงอายุยืนกว่าผู้ชายค่ะ ทำให้ท่านที่จะทำประกัน สามารถพลิกแพลงอะไรได้บ้าง เช่น บางบ้านจะให้คุณผู้ชายกู้คนเดียว ก็อาจเปลี่ยนเป็นกู้ร่วมหากคุณผู้หญิงมีรายได้ เราสามารถแบ่งสัดส่วนให้ผู้หญิงทำประกันมากกว่า เช่น กู้ 1,000,000
ยอดทำประกันตามสเตปก็จะเป็น 1,000,000 เราอาจให้คุณผู้หญิงทำประกันในวงเงิน 800,000 คุณผู้ชายทำ 200,000 เพื่อจะได้ประหยัดค่าเบี้ยในส่วนนี้ แต่ยังจะได้ความคุ้มครองที่เหมือนเดิมคือ 1,000,000
แต่แนะนำว่าให้พิจารณาให้รอบคอบนะคะ บางบ้านสามีเงินเดือนเยอะ ภรรยาเงินเดือนน้อย ทำแบบที่ยกตัวอย่างไป พอเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา เงินที่ได้มา 200,000 บวกกับเงินเดือนของภรรยาที่ถือว่าน้อย อาจจะมีปัญหากระทบกับการผ่อนบ้านที่เหลือ
หากเราปิดบัญชีเงินกู้ก่อนกำหนด ..
1. เราสามารถขอเวนคืนเงินค่าเบี้ยที่เหลือกลับมา หรือ
2. รับความคุ้มครองจนสิ้นสุดสัญญาที่ได้ทำไว้ตอนต้น
2. รับความคุ้มครองจนสิ้นสุดสัญญาที่ได้ทำไว้ตอนต้น
ที่มา จากเว็บพันทิพย์ กระทู้ให้ความรู้ : เกี่ยวกับประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินกู้