ประกันภัย / ประกันภัยรถยนต์ โตไม่ถึงเป้า เจอพิษการเมืองจั๋งหนับ
ประชาชนหดหู่ไม่อยากใช้จ่ายเงิน กระทบต่อการซื้อ ประกันภัย รายใหม่ ประกันภัย ส่วนบุคคลต่างๆ ประกันภัยรถยนต์ ประกันชีวิต ประกันภัย สุขภาพ ชะลอตัวลง
ประชาสัมพันธ์โดย : ทูเดย์อินชัวร์ดอทคอม ศูนย์รวม ประกันภัยรถยนต์ มากกว่า 3,000 รายการ,
ประกันภัยรถยนต์ชั้น1, ประกันภัยรถยนต์ชั้น3 ประกันภัยรถยนต์หลากหลายรุ่นให้เลือก
ข้อมูล : http://www.todayinsure.com/index.php?ui=news&tag=other&interface=detail&id=816
ปัญหาการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อเดาบทสรุปยาก แม้นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาไปแล้วก็ตาม ยังคงเป็นปัจจัยลบบ่อนทำลายการขยายตัวของเศรษฐกิจ การส่งออก การลงทุนในประเทศ ตลอดไปจนถึงการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนที่เริ่มรัดเข็มขัด เพราะไม่แน่ใจสถานการณ์จะรุนแรงแค่ไหน เริ่มมีผลกระทบมาถึงธุรกิจ ประกันภัย ชัดเจนมากกว่าช่วงก่อน เมื่อกำลังซื้อ ประกันภัย ส่อเค้าชะลอตัวลง กระทบเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ต่ำกว่าที่คาดไว้
ม็อบป่วนลูกค้าใหม่ไร้อารมณ์ซื้อ / กระทบ ประกันภัย โตไม่ถึงเป้า
ประธานสภาธุรกิจ ประกันภัย ไทยยอมรับว่า ปัญหาการเมืองทำให้ไม่มีบรรยากาศในการซื้อ ประชาชนเกิดความหดหู่ไม่อยากใช้จ่ายเงิน เพราะไม่รู้อนาคตเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร กระทบต่อการซื้อ ประกันภัย ของลูกค้ารายใหม่ ประกันภัย ส่วนบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ประกันภัยรถยนต์ ประกันชีวิต ประกันภัย สุขภาพชะลอตัวลง ทำให้เบี้ย ประกันภัย ใหม่ ซึ่งปกติเข้ามามากในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของการทำยอดขายประจำปีหายไป
ส่วนลูกค้าต่ออายุไม่น่าจะกระทบมาก อย่างบ้านอยู่อาศัยที่ติดสินเชื่อธนาคาร ต้องต่ออายุ ประกันภัย อยู่แล้ว ขณะที่การต่ออายุ ประกันภัยรถยนต์ อาจจะมีบ้างที่อาจจะปรับจาก ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ไปเป็น 2+ หรือ 3+ แทน เลือกที่จะรับความเสี่ยงเองมากขึ้น เพื่อประหยัดรายจ่าย
“ลูกค้าใหม่มีผลมากกว่าลูกค้าเก่า ทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย มาจากปัญหาการเมืองเป็นหลัก”
วินาศภัยโตลดเดือนละ 1% / สิ้นปีพุ่งไม่ถึง 15%
เชื่อว่าถึงสิ้นปีนี้ ธุรกิจ ประกันภัย ทั้งระบบคงเติบโตไม่ถึงเป้าที่วางไว้ ประกันวินาศภัยอาจจะไม่ถึง 15% เห็นจากงานมหกรรมยานยนต์ที่เพิ่งจบไป บรรยากาศการซื้อขาย รถยนต์ ใหม่ไม่ดี
ในมุมนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยมองไม่ต่างกัน ประเด็นการเมืองทำให้ลูกค้าใหม่หดอยู่แล้ว และทำให้อัตราการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัยชะลอตัวลงเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยผลประกอบการ 9 เดือนเติบโต 15.7% เทียบกับ 8 เดือนที่ขยายตัว 16.22% เฉลี่ยทุกเดือนตั้งแต่มกราคมถึงพฤศจิกายน อัตราเติบโตลดลง 1% ถึงสิ้นเดือนธันวาคม อาจจะเหลือ 15% เพราะการท่องเที่ยวยังดีอยู่ เพียงแต่คนไทยเปลี่ยนจากการท่องเที่ยวต่างประเทศ มาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
“อัตราเติบโตรายเดือนที่ลดลงจริงๆ ไม่เกี่ยวกับม็อบโดยตรง มาจากสัญญาณตั้งแต่ต้นปี รถยนต์ ขายไม่ออก โครงการ รถยนต์ คันแรกที่หมดไป เบี้ย ประกันภัย ทรัพย์สินที่ลดลงหลังปรับเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากน้ำท่วม และครึ่งปีหลังเศรษฐกิจดร็อปลง โดยครึ่งปีแรกธุรกิจโต 20% ครึ่งหลังโต 10% เฉลี่ยทั้งปี 15% เพียงแต่ม็อบทำให้อัตราเติบโตลดลงเร็วกว่านั้น ยังเชื่อปีนี้ 15% น่าจะได้อยู่ งานมหกรรม รถยนต์ เห็น รถยนต์ ส่วนใหญ่ส่งมอบได้เลย ทำให้มีเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ใหม่เข้ามาทันที ต่างจาก รถยนต์ คันแรกปีก่อน ที่ต้องรอหลายเดือน เบี้ย ประกันภัยรถยนต์ ใหม่ยังไม่เข้ามาทันที”
นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยย้ำว่า ที่น่าเป็นห่วงคือปี 2557 หากประเทศยังหาทางออกไม่เจอ ไม่ยอมให้เลือกตั้ง และม็อบยังคาอยู่ 6-7 เดือน จะส่งผลกระทบจริงๆ ต่อธุรกิจ ประกันภัย
ประกันชีวิตทำดีสุด 16% / ตัวแทนเหนื่อย กำลังซื้อใหม่หด
ส่วนประกันชีวิต นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ให้ความเห็นว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้คนชะลอการใช้จ่าย กอปรกับภาพรวมธุรกิจในช่วงนี้มีเบี้ย ประกันภัย ครบกำหนดจำนวนมาก จึงส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตในภาพรวมถดถอยลง ตั้งแต่ช่วง 9 เดือนมาจนถึงช่วง 10 เดือน
“หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ ก็ยอมรับว่าการเติบโตภาพรวมของธุรกิจในปีนี้คงไม่เป็นไปตามเป้าที่สมาคมฯ คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี 17.3% แน่ คงดร็อปลงไปเล็กน้อย น่าจะโตแค่ 16%”
เช่นเดียวกับผู้อำนวยการ สมาคมประกันชีวิตไทยที่เห็นว่า ส่วนตัวมองว่าสถานการณ์การเมืองที่ยืดเยื้อ บวกกับจีดีพีที่ปรับลดลง และการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง คนไม่มีอารมณ์ใช้เงิน มีผลกระทบต่อการซื้อประกันชีวิตแน่ เพราะมักถูกเลือกเป็นรายจ่ายอันดับท้ายๆ
“เราประเมินเมื่อต้นปีว่า ทั้งปีน่าจะเติบโตได้ 17.3% ไตรมาสสามอาจจะดร็อปลงหน่อย เพราะเป็นธรรมชาติของธุรกิจที่จะมาทำตลาดกันแรงตอนไตรมาสสี่ มีการทำตลาดแบบ ประกันภัย เพื่อลดหย่อนภาษี จึงมองว่าไตรมาสสี่น่าจะโตได้ 19-20% และเมื่อถัวเฉลี่ยทั้งปีน่าจะเติบโตได้ 17.3% ตามเป้า แต่เมื่อการเมืองยืดเยื้อบวกกับหลายๆ ปัจจัย ก็มีโอกาสที่จะโตไม่ถึง 17.3% อาจจะโตได้ 16-16.5% ก็ยังใกล้เคียงเป้า”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารช่องทางการขาย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์องค์กร บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) ยอมรับว่า สถานการณ์การเมืองมีผลต่อการทำงานของตัวแทนฝ่ายขายในช่วงนี้มาก แต่โชคดีในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ สามารถทำผลงานได้ดี จึงทำให้ยังเติบโตได้ดี และน่าจะเป็นไปตามเป้า
“โชคดี 3 ไตรมาสแรกทำไว้ดี ทำให้ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน เบี้ย ประกันภัย ปีแรก (FYP) เราโต 22% สิ้นปีก็น่าจะได้ตามเป้า โดยเรายังทำกิจกรรมต่างๆ เหมือนเดิม”
ต้นปีสมาคมประกันชีวิตไทยประเมินการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตปีนี้ไว้ที่ 17.3% มีเบี้ย ประกันภัย รับรวมประมาณ 459,100 ล้านบาท ขณะที่ 10 เดือนแรก ธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ย ประกันภัย รับรวมทั้งสิ้น 359,272.3 ล้านบาท เติบโต 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีเบี้ย ประกันภัย ใหม่ 123,808.9 ล้านบาท เติบโตถึง 23% แบ่งเป็นเบี้ย ประกันภัย ปีแรก 77,205.4 ล้านบาท เติบโต 18% และเบี้ย ประกันภัย ชำระครั้งเดียว หรือซิงเกิล พรีเมี่ยม 46,603.5 ล้านบาท เติบโต 33% และเบี้ย ประกันภัย ปีต่อไป หรือเบี้ย ประกันภัย ต่ออายุ 235,463.3 ล้านบาท เติบโต 12% โดยอัตราความคงอยู่ หรืออัตราความยั่งยืนกรมธรรม์ในระดับ 86%
คปภ.คาดว่า ปีนี้ธุรกิจ ประกันภัย จะเติบโต 17% แบ่งเป็นการเติบโตของประกันชีวิต 16% และประกันวินาศภัย 18% คิดเป็นเบี้ย ประกันภัย ประมาณ 655,388 ล้านบาท เทียบกับปี 2555 ที่มีเบี้ย ประกันภัย รับรวม 569,903 ล้านบาท ซึ่งเป็นการคาดการณ์ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภา
ที่มา : สยามธุรกิจ
หมวดประกันภัยรถยนต์อื่น ที่สามารถเลือกซื้อได้
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น1
- ประกันภัยรถยนต์ 2 พลัส
- ประกันภัยรถยนต์ 3 พลัส
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น3
วิริยะประกันภัย | กรุงเทพประกันภัย | สินมั่นคงประกันภัย | อาคเนย์ประกันภัย | เมืองไทยประกันภัย |
The post ประกันภัย / ประกันภัยรถยนต์ โตไม่ถึงเป้า เจอพิษการเมืองจั๋งหนับ appeared first on Thai Car Insurance.